
ในวันพุธที่ 12 เดือนตุลาคม พ.ศ.2565 นางสาวทิพานัน ศิริชนะรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้บอกว่านายกรัฐมนตรีจะเน้นไปแก้ไขปัญหาของหนี้ครัวเรือนโดยที่ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ร่วมกับกระทรวงการคลังและเจ้าหนี้ประมาณอีก65รายได้มีการตกลงรับนโยบายของรัฐบาลไทยและได้จัดกิจกรรมในมหกรรมร่วมใจกันแก้หนี้เพื่อที่จะให้คนที่ติดหนี้มีปัญหาเรื่องการชำระหนี้จากผลกระทบของโรคระบาดโควิด19และผลกระทบต่อเนื่องจากปัญหาค่าครองชีพอัตราดอกเบี้ยที่แพงขึ้นได้ใช้หนี้ได้และตั้งตัวได้ใหม่
นางสาว ทิพานัน ยังบอกอีกว่าเริ่มต้นแรกๆจะเป็นการแก้หนี้ในรูปแบบออนไลน์จึงเชิญชวนลูกหนี้ทั้งหลายไปลงทะเบียนแก้หนี้ได้ตั้งแต่ วันที่ 12 ตุลาคม 2565 ไปจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 โดยลงทะเบียนได้ที่ www.bot.or.th/debtfair

วิธีการลงทะเบียน มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีดังนี้
1.ต้องยื่นคำขอโดยผ่านเว็บไซต์มหกรรมร่วมใจแก้หนี้
2.ธนาคารแห่งประเทศไทยจะทำการส่งเรื่องให้กับเจ้าหน้าที่ร่วมในมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ตามคำขอผู้ที่ลงทะเบียนระบุไว้ภายใน3-4วันนับจากหลังลงทะเบียนสำเร็จเรียบร้อย
3.ลูกหนี้นั้นคอยรอรับโทรศัพท์ที่ติดต่อมาจากเจ้าหนี้เพื่อที่จะตกลงเงื่อนไขในระยะเวลา14วัน หลังจากที่ผู้ให้บริการทางการเงินได้รับคำขอจากทางธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว

ต่อมานางสาว ทิพานันยังได้บอกอีกว่า ลูกหนี้คนไหนที่ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วจะสามารถตรวจสอบความคืบหน้าได้ผ่านเว็บไซต์มหกรรมร่วมใจแก้หนี้และหากลูกหนี้ท่านใดไม่ได้รับการติดต่อกลับหลังจากที่ลงทะเบียนเกิน18วันไปแล้วก็สามารถติดตามความคืบหน้ากับเจ้าหน้าที่ที่ลูกหนี้ได้ลงทะเบียนไว้ได้เลย
และได้มีการย้ำว่าการที่ลงทะเบียนไปนั้นจะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นจึงให้ระวังมิจฉาชีพที่จะคอยไปหลอกหลวงได้ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยโดยจะไม่มีการติดต่อไปโดยตรงที่ลูกหนี้ทุกกรณีไม่มีการทำธุรกรรมโดยตรงกับประชาชนใดๆทั้งสิ้นและเพื่อป้องกันการหลอกหลวงถ้ามีเจ้าหน้าที่ติดต่อไปให้ลูกหนี้สอบถามเลขที่คำขอกับเจ้าหน้าที่ที่มีการติดต่อมา เพื่อที่จะได้ตรวจสอบด้วยว่าเป็นเจ้าหน้าที่จริงหรือไม่
นอกจากนั้นนางสาว ทิพานัน ยังได้บอกอีกว่านอกจากที่จะเปิดให้ลงทะเบียนในระบบออนไลน์แล้วยังมีการบริการสัญจรอีกด้วย โดยร่วมกับทางธนาคารของรัฐบาลเช่น
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารอาคารสงเคราะห์
- ธนาคารเพื่อการเกษตร,สหกรณ์การเกษตร
- ธนาคารกรุงไทย
และจะจัดมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ที่เป็นระบบสัญจรใน5จังหวัดด้วยกับซึ่งประกอบด้วย
- จังหวัดกรุงเทพมหานครจะเป็นช่วงของเดือนพฤศจิกายน
- จังหวัดขอนแก่นในช่วงประมาณเดือนธันวาคม
- จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดชลบุรีในช่วงกลางเดือนธันวาคม
- อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาในช่วงของเดือนมกราคมปี พ.ศ.2566
และกรณีที่ลูกหนี้ไม่สามารถเข้าร่วมมหกรรมร่วมใจแก้หนี้ได้นั้นก็มีอีกช่องทางที่สามารถแก้ไขปัญหาหนี้ได้โดยของกรณีที่หนี้เสียบัตรเครดิตนั้นก็ไปที่ช่องทางwww.คลินิกแก้หนี้.com
สุดท้ายรัฐบาลนั้นมีความจริงใจและตั้งใจแก้ปัญหาหนี้สินของครัวเรือนแบบจริงจังเพื่อที่จะได้ลดหนี้ของประชาชนรายย่อยๆเพื่อแก้ไขปัญหาให้ทั่วถึงทุกพื้นที่และหวังว่าจะช่วยชีวิตคุณภาพของประชาชนชาวไทยให้ดีขึ้นอย่างมีความเท่าเทียมกัน นางสาวทิพานันได้พูดไว้
เครดิต : www.bangkokbiznews.com, ThaiPost, Line Today
Tags : ทิพานัน, มหกรรมร่วใจแก้หนี้, ร่วมใจแก้หนี้ออนไลน์